อาหารสากล

อาหารตามมื้อสากลของชาวยุโรป

หมายถึง อาหารมื้อทั่ว ๆ ไปที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันโดยเฉพาะชนชาติฝรั่งฝั่งตะวันตก
อาหารตามแบบฝรั่งจะแบ่งออกได้เป็นมื้อหลัก ๆ ทั้งหมด 6 มื้อด้วยกัน คือ

1. มื้อเช้า
2. มื้อว่างเช้า
3. มื้อกลางวัน
4. มื้อว่างบ่าย
5. มื้อเย็น
6. มื้อค่ำ

อาหารมื้อเช้า
อาหารมื้อเช้า แบบอังกฤษ
อาหารมื้อเช้าในแบบยุโรปจะเป็นอาหารแบบเบา ๆ ไม่นิยมรับประทานอาหารประเภทไข่หรือเนื้อสัตว์ในมื้อนี้
อาหารที่ตั้งโต๊ะได้แก่ ขนมปัง เนย แยม น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ นมสด หรือ กาแฟ เวลาในการเริ่มรับประทานก็คือเวลา 07.00 - 09.00 น.

ประเภทของอาหารมื้อเช้า
อาหารมื้อเช้ายังแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทด้วยกัน คือ อาหารประเภทไข่
อาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารประเภทขนมปัง อาหารประเภทธัญพืช อาหารประเภทผัก
และสุดท้าย คือ อาหารประเภทเครื่องดื่มและน้ำผลไม้

อาหารมื้อเช้าประเภทไข่ มีดังนี้
• ไข่ลวก (Soft and Hard boiled eggs)
• ไข่คน (Scramble eggs)
• ไข่ทอดฝรั่ง (Omelet)

อาหารมื้อเช้าประเภทเนื้อสัตว์ ได้แก่
• แฮมรมควัน
• ไส้กรอก เบคอน
• ไก่อบ เป็นต้น

อาหารประเภทขนมปัง ได้แก่
• ขนมปังปิ้ง (Toast)
• ขนมปังหวาน (Sweet Roll)
• ครัวซอง (Croissant)
• แพนเค้ก (Pancake)
• วัฟเฟิล (Waffle)

อาหารประเภทธัญพืช (Cereal) ได้แก่
• คอนเฟ็ลค รสชาติต่าง ๆ เช่น รสข้าวโพด, ช็อคโกแลต
• ข้าวโอ๊ด
• ธัญพืชสำเร็จรูป

อาหารประเภทผัก
• มะเขือเทศ, แตงกวา, หอมใหญ่, มันฝรั่ง

อาหารประเภทเครื่องดื่มและน้ำผลไม้
• กาแฟ
• นมสด
• ชา
• ไมโล
• น้ำผลไม้

อาหารมื้อกลางวัน

สำหรับชาวตะวันตก อาหารมื้อกลางวัน เป็นอาหารสำคัญอีกมื้อหนึ่งซึ่งมีความหมายว่า เป็นอาหารแบบเบาๆ ง่ายๆ และรวดเร็ว โดยนิยมเสิร์ฟเป็นจานตามลำดับก่อนหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารคาวเพียง 2 จานแล้วต่อด้วยของหวาน ชา หรือ กาแฟสัก 1 ถ้วย เพราะมีเวลารับประทานไม่มากนักคือเพียง 1 ชั่วโมง อาหารมื้อกลางวันของยุโรป อเมริกัน และอังกฤษ ก็จะมีเวลาแตกต่างกันออกไปอีก คือ ถ้าเป็นยุโรปจะเริ่มรับประทานเวลา 12.00 น. แต่ถ้าเป็นอเมริกันหรืออังกฤษ จะเริ่มรับประทานเวลา 13.00 น. - 14.00 น.

ประเภทของอาหารมื้อกลางวัน
ประเภทที่ 1 คือ อาหารจานเดียว (One Course) หมายถึง อาหารที่เป็นอาหารคาวอย่างเดียว เช่น ไก่, เนื้อ, หมู, ปลา และมีอาหารประเภทผัดต่างๆ หรืออาจมีสลัดประกอบด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานอาหารมากหรือมีเวลาน้อย

ประเภทที่ 2 จะเป็นพวก อาหารสองจาน (Two Course)
ซึ่งหมายถึง อาหารที่เป็นประเภทอาหารคาว 2 จาน จานแรกจะเป็นอาหารเบา ๆ เช่น Cocktail ต่างๆ อาหารทะเลหรือซุป ส่วนจานที่ 2 จะเป็นอาหารหนัก และมีสลัดประกอบ

ประเภทที่3 เป็น อาหารสามจาน (Three Course)หมายถึง อาหารที่เป็นประเภทอาหารคาว 3 จาน จานแรกเป็นออร์เดิร์ฟหรือซุป จานที่ 2 เป็นอาหารทะเล (Entree) จานที่ 3 เป็นอาหารหลัก (Main Course) ประเภทเนื้อไก่ หมู และผักเป็นส่วนประกอบ


อาหารมื้อบ่าย
อาหารมื้อบ่าย เป็นวัฒนธรรมการกินของชาวตะวันตกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะชาวอังกฤษเมื่อตกบ่ายจะนิยมดื่มชา อาจจะเพราะอังกฤษเป็นประเทศที่หนาวและมีฝนตกแบบที่กรมอุตุนิยมวิทยาบ้านเขาไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแน่นอน ชาวอังกฤษจึงต้องถือร่มออกจากบ้านทุกเช้าและนิยมดื่มชาเพื่อให้เกิดความอบอุ่นแก่ร่างกาย ประเภทของชาที่ชาวอังกฤษนิยมดื่มกันมีอยู่หลายชนิดล้วนแล้วแต่มีกลิ่นหอมแถมรสชาติก็ดีไม่แพ้ชาของชาวญี่ปุ่นและจีนเลยทีเดียว


ประเภทของอาหารมื้อว่าง
อาหารว่างของชาวตะวันตกมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ

1. อาหารว่างเช้า (Brunch) เป็นอาหารมื้อที่อยู่ระหว่างอาหารเช้าและอาหารกลางวัน อาหารว่างเช้าจะเป็นอาหารมื้อที่หนักกว่ามื้อเช้าแต่ไม่มากเท่ามื้อกลางวัน คำว่า Brunch มาจากคำว่า Breakfast กับคำว่า Lunch รวมกัน ส่วนใหญ่จะรับประทานในเวลา 09.30 - 10.00 น. หรืออาจจะเลยไปกว่านั้นแต่ไม่เกิน 11.00 น. ส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันในวันพักผ่อนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า พอสายหน่อยก็อาจจะขับรถไปรับประทานตามโรงแรม มีหลายโรงแรมทีเดียวครับที่เปิดให้บริการ Brunch แต่ขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถแนะนำคุณได้เพราะจะเข้าข่ายกลายเป็นการโฆษณาไป

2. อาหารว่างบ่าย (Afternoon Tea) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
ประเภท Afternoon Tea หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Coffee Break จริง ๆ แล้วคำเต็ม ๆ ของ Coffee Break คือ Coffee Break Afternoon Tea จะใช้เสิร์ฟในช่วงบ่ายหรือระหว่างพักการประชุมสัมนาต่าง ๆ ซึ่งจะเสิร์ฟเวลาประมาณ 15.00 น. - 17.00 น. อาหารที่นิยมนำมาจัดเป็น Coffee Break นี้มีตั้งแต่อาหารหวาน ขนมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ พาย ครัวซอง หรืออาจจะเป็นอาหารคาว หรือจะจัดรวมกันเป็นอาหารคาวและอาหารหวานก็ได้เสิร์ฟคู่ไปกับน้ำผลไม้เย็น ๆ หรือเครื่องดื่มร้อนหวาน เป็นต้น
ประเภท High Tea เป็นอาหารว่างบ่ายอีกประเภทหนึ่งที่มีความแตกต่างจาก Afternoon Tea คือ จะเป็นอาหารที่หนักท้องกว่า เช่น พวกสลัดเนื้อสัตว์ หรือ แซนด์วิช และช่วงเวลาที่รับประทาน High Tea นี้มักจะเป็นช่วงที่ต้องรออะไรสักอย่าง เช่น รองท้องก่อนไปดูหนังฟังเพลง หรือก่อนเวลารับประทานอาหารเย็น

อาหารมื้อเย็น
อาหารมื้อนี้จะเป็นมื้อที่หนักที่สุดเพราะเต็มไปด้วยอาหารประเภทเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ มีอาหารหลายอย่างซึ่งทยอยเสิร์ฟ มีการรับประทานเป็นขั้นเป็นตอน และมีเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอลล์ เรียกน้ำย่อยก่อนรับประทานจริง เหตุที่มีอาหารหลายอย่างทยอยเสิร์ฟก็เพราะว่ามื้อนี้เป็นมื้อสุดท้ายของวัน เป็นช่วงเวลาการรับประทานแบบสบาย ๆ ไม่มีเวลาจำกัด ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป Dinner มีอาหารหลายอย่างทยอยเสิร์ฟเป็นลำดับ


1.อาหารจานแรก (Appetizers)
เป็นอาหารที่ใช้เรียกน้ำย่อย อาจจะมีรสจืด หรือรสจัดก็ได้ ขนาดชิ้นพอคำ เสิร์ฟในปริมาณไม่มากนัก เรียกว่าเป็นการเรียกน้ำย่อยกันแบบพอหอมปากหอมคอ

2. อาหารประเภทซุป (Soup)
หลังจากอาหารจานแรกผ่านไป บริกรจะเสิร์ฟซุปเป็นอาหารจานที่ 2 ซึ่งจะมีทั้งซุปข้นและซุปใส (Thick Soup /Clear Soup) เสิร์ฟให้ในปริมาณที่ไม่มากเกินไป และต้องเสิร์ฟขณะซุปยังร้อน

3. อาหารจานรอง (Entree)
เป็นอาหารชิ้นเล็กๆ ทำจากอาหารทะเลประเภทปลาหรือกุ้ง หอยเชลล์ เสิร์ฟปริมาณน้อย และนิยมเสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย

4. อาหารจานหลัก (Main Course)
เป็นอาหารจานสุดท้ายในประเภทอาหารคาว ประกอบด้วย เนื้อสัตว์เป็นหลัก ตกแต่งด้วยผักสุกหรือผักสด เช่น สเต็กที่ทอดหรือย่าง อาจราดด้วยซอสหรือไม่ก็ได้ นิยมเสิร์ฟกับไวน์ขาวหรือไวน์แดง

5. ของหวานและเครื่องดื่ม (Desert)
ของหวานหลังอาหารอาจเป็นเค้ก ไอศกรีม หรือผลไม้
ก็ได้ จะเสิร์ฟพร้อมกับเหล้าหลังอาหาร และตามด้วยกาแฟหลังสุด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น